ระบบ ERP อีอาร์พี
ระบบ Enterprise
Resource Planning หรือ ERP อีอาร์พี
คือระบบจัดการทรัพยากรในองค์กร
โดยระบบจะเชื่อมโยงข้อมูลในการปฏิบัติงานทุกส่วนในองค์กร
เหมาะสำหรับองค์กรที่มีขนาดใหญ่และต้องการโปรแกรมควบคุมการจัดการที่มีประสิทธิภาพ
นอกจากนั้น ERP อีอาร์พี ยังสามารถเชื่อมโยงกับระบบภายนอกองค์กรได้
เช่น ลูกค้า, คู่ค้า, ตัวแทนจำหน่าย,
ซัพพลายเออร์, ฯลฯ เป็นต้น
หลักการก็คือ
การบันทึกของมูลลงเพียงครั้งเดียวแต่คนในบริษัทสามารถเปิดออกมาดูได้จากหลายๆแผนก
จะช่วยให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงาน ส่วนค่าใช้จ่ายของการลงทุนติดตั้งค่อนข้างสูง
ประโยชน์ที่องค์กรจะได้รับจากการนำระบบ ERP
อีอาร์พี ไปใช้มีดังนี้คือ
- ERP ช่วยใน การเชื่อมโยงของข้อมูลในการทำงานแต่ละส่วนงาน
- ERP ลดความซ้ำซ้อนสำหรับกระบวนการทำงานที่ยังมีความคาบเกี่ยวกัน
- ERP สามารถมองเห็นภาพรวมของการทำงานทั้งองค์กรได้เป็นอย่างดี
- ERP สามารถนำข้อมูลที่ได้จากระบบมาช่วยในการตัดสินใจได้
ถ้าจะกล่าวถึง Software
ที่ใช้ในการบริหารจัดการทรัพยากรภายในองค์กรนั้น ทุกคนคงนึกถึง Software
ประเภท ERP ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายค่ายที่ผลิต Software
ชนิดนี้ขึ้นมา เช่น Oracle Applications, Lawson Software,
The Sage Group, SAP ฯลฯ ซึ่งในวงการนี้ได้มีการแข่งขันที่สูงมาก
แต่จะนำเสนอ เพียง SAP , Oracle
SAP ก่อตั้งที่ประเทศเยอรมันนี เมื่อปี 1972 (พ.ศ.
2515) สํานักงานใหญ่อยู่ที่ Walldorf, Germany โดยการรวมตัวกันของอดีตพนักงานบริษัท IBM และเจริญเติบโตจนกลายเป็นบริษัท
software ที่ใหญ่เป็นอันดับ5ของโลก
มีบริษัทที่มีการใช้ SAP มากกว่า 6,000 บริษัท ใช้มากกว่า 50 ประเทศ ใช้มากกว่า 9,000
site มีส่วนแบ่งในตลาด client/server software กว่า 31% มีผู้ใช้เพิ่ม 50% ต่อปี
มียอดขาย SAP R/3 เพิ่มขึ้น 70% ต่อปี
เป้าหมายธุรกิจในเริ่มแรก เน้นลูกค้าที่เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ (Enterprise-scale)
แต่ในปัจจุบันได้ขยายธุรกิจไปที่ลูกค้าขนาดเล็กและขนาดกลาง
ลูกค้าที่สําคัญของ SAP ในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกคือ
Singtel, Tata Group of Companies, Siam Cement, Telom Asia, PT Astra, San
Miguel, Uniliver, FAW-Volkswagen, Sony Computer Entertainment, 7-Eleven Stores,
General Motors, Novartis
Modules SAP
ใน SAP เองมี Modules หลายๆ
Modules ที่มีหน้าที่ทำงานแตกต่างกัน แต่สอดประสานกัน
ในแต่ละ Modules จะส่งข้อมูลที่เกี่ยวเนื่องกัน ถึงกัน
โดยไม่ต้องป้อนข้อมูลซ้ำซ้อนในแต่ละ Modules และ
มีการพัฒนาขึ้นมาในลักษณะของ Based on Best Practice in Industry
Module SAP ที่เป็นที่รู้จักกันคือ
1. SD
(Sales and Distribution) เป็นโปรแกรมเกี่ยวกับการบันทึกการขาย
และให้บริการ
2. MM
(Materials Management) เป็นโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมสินค้าคงคลัง
การสั่งซื้อสินค้า
3. FI
(Financial Accounting) เป็นโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการบันทึกตัวเลขทางบัญชี
การทำงบประมาณ รายงานทางการเงินต่างๆ
..... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/378824
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น